พื้น สีอีพ็อกซี่ หรือ พื้นโพลียูรีเทน สำหรับโรงงานกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร
หลายต่อหลายครั้งที่ลูกค้าหลายๆ ท่านได้สอบถามกับทาง Admin ว่าทำไมต้องใช้พื้นอีพ็อกซี่หรือพื้นโพลียูรีเทนสำหรับโรงงานกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร ใช้กระเบื้องแทนไม่ดีกว่าเหรอ ราคาก็ถูกกว่า ไม่เห็นจะมีฝุ่นตรงไหนเลย ไม่ลอกง่าย(เมื่อเทียบกับพื้นอีพ็อกซี่) ดังนั้นเพื่อเป็นการคายข้องสงสัยดังกล่าว ผมจึงตั้งใจเขียนบทความนี้ขึ้นมาเพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ดีๆ หรือเล่าสู่กันฟังครับ สำหรับพื้นอีพ็อกซี่หรือพื้นโพลียูรีเทน(พื้น PU) เป็นการเคลือบพื้นโดยอาศัยปฎิกิริยาทางเคมีของสีอีพ็อกซี่กับสารทำให้แข็งตัว(Hardener) ทำปฏิกิริยากันเกิดเป็นสารกลุ่มเทอร์โมเซ็ต (ถ้าจะให้เข้าใจง่ายๆ ก็คล้ายๆ เวลาเราจะติดกาวตราช้างกับชิ้นงานนั้นละครับ กาวมันจะทำปฏิกิริยากับอากาศเกิดเป็นสารกลุ่มเทอร์โมเซ็ต ซึ่งเป็นเนื้อเดียวกันและเสถียรสูง) ทำให้พบลักษณะที่ดีอย่างหนึ่งคือ มันติดเป็นเนื้อเดียวกัน ไร้รอยต่อ ทำให้สามารถทำความสะอาดได้ง่าย ซึ่งตรงกันข้ามกับลักษณะของการปูกระเบื้อง ซึ่งต้องใช้ยาแนวในบริเวณขอบรอยต่อของกระเบื้อง ทำให้เกิดความไม่เรียบเป็นร่อง ซึ่งบริเวณดังกล่าวจะเป็นที่อยู่ของเชื้อโรคและสิ่งสกปรกได้ง่าย ซึ่งในจุดนี้โรงงานกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารที่ต้องการทำมาตรฐาน GMP&HACCP เน้นย้ำมากๆ

นอกจากนี้พื้นกระเบื้องบริเวณมุมห้องที่เป็นช่วงต่อระหว่างผนังกับพื้นกระเบื้องจะเป็นมุมฉาก ซึ่งเป็นบริเวณที่ทำความสะอาดได้ยาก GMP ได้กำหนดให้บริเวณดังกล่าวต้องเป็นส่วนโค้งระหว่างผนังกับพื้น หรือภาษาวิศวกรรมเรียกกันว่า มี R ภาษาช่างเรียกว่าต้องทำการปั้นบัวหรือมีบัวนั้นละครับ ซึ่งลักษณะส่วนโค้งดังกล่าวจะง่ายต่อการทำความสะอาด และนอกจากนี้ยังมีรายละเอียดอีกมาก ว่างๆ admin จะนำบทความเกี่ยวกับ GMP มานำเสนออีกครั้งนะครับ

หลายๆ ท่านอาจจะสงสัยว่าแล้วพื้นโรงงานที่ทำพื้น epoxy ไม่มีฝุ่นจากการร่อนของสีอีพ็อกซี่เหรอ ?
ครับสำหรับการร่อนของพื้นอีพ็อกซี่มีแน่นอน สำหรับการร่อนของพื้นอีพ็อกซี่ขึ้นอยู่กับหลายๆ ปัจจัย ปัจจัยแรกๆ ที่เจอส่วนมากคือ การเลือกใช้ชนิดของสีพื้นผิดประเภท(พบบ่อยมากๆ ซึ่งผู้รับเหมา
บางเจ้าก็ตามใจลูกค้าถึงแม้จะรู้ว่าลูกค้าเลือกสีพื้นผิดประเภทก็ตาม) และการเลือกความหนาของพื้นน้อยกว่าที่ควรจะเป็น(เพื่อประหยัดงบ แต่อายุการใช้ง่ายก็สั้นลงไปอีก) เดี๋ยวเรามาดูกันเป็นข้อๆ
ดังนี้
แล้วจะเลือกพื้นแบบไหนให้เหมาะสมกับเราละ ?
คำถามนี้ตอบได้ง่ายมาก คำตอบคือขึ้นอยู่กับการใช้งานของเราเป็นหลักครับ ถ้าใช้งานในบริเวณที่มีน้ำไหลผ่านหรือบริเวณที่ต้องใช้น้ำ ก็แนะนำเป็นพื้นโพลียูรีเทนจะดีกว่าครับ(พื้น PU) แตถ้าใช้
ในห้องเครื่องหรือบริเวณที่เปื้อนน้ำมันหรือสารเคมี แนะนำเป็นพื้นอีพ็อกซี่ก็พอแล้ว แต่สำหรับหลายท่านที่ต้องการใช้งานพื้นกลางแจ้งก็แนะนำเป็นพื้นโพลียูรีเทน(พื้น PU) นะครับ เพราะถ้าเป็นพื้น
อีพ็อกซี่โดนแสงแดดบ่อยๆ เข้าจะเปลี่ยนเป็นโทนเหลืองนะ แต่ถ้าเลือกพื้น PU ก็ต้องทำใจเรื่องความเงานิดหนึ่งนะครับ มันจะเงาสู้พื้นอีพ็อกซี่ไม่ได้ (อีพ็อกซี่จะให้ความเงางามกว่า)
แล้วจะเลือกความหนาของพื้นเท่าไหร่ถึงเหมาะสมกับเราและไม่สิ้นเปลืองจนเกินไป ?
ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานนั้นละครับ ถ้าเราใช้งานเพียงแค่ให้คนเดินไป เดินมา ไม่ค่อยมีกิจกรรมอะไรในบริเวณนั้นมาก ก็แนะนำเป็นพื้น Coating ธรรมดาก็พอ (พื้นอีพ็อกซี่โค๊ดติ้ง) แต่ถ้ามี
กิจกรรมที่มีรถวิ่งผ่าน มีการขนย้ายสิ่งของอยู่เป็นประจำ ก็แนะนำเป็นระบบ self-levelling จะดีที่สุดครับ
แล้วพื้นอีพ็อกซี่โค๊ดติ้งกับพื้น epoxy self-levelling ต่างกันยังไง ?
ต่างกันที่ความหนาครับ สำหรับระบบพื้น epoxy coating เป็นเพียงการใช้ลูกกลิ้งกลิ้งบนพื้นธรรมดา (อารมณ์ประมาณว่า ทาสีผนังห้องอ่ะครับ) ความหนาที่ได้ก็อยู่ระดับไม่ถึง 1
มิลลิเมตร แต่ถ้าเป็นสี epoxy self levelling ก็จะเป็นการเคลือบโดยใช้เกรียงปาด ความหนาที่ได้ก็จะหนากว่า โดยมากมีหลากหลายความหนา ตั้งแต่ 2 มิลลิเมตรขึ้นไปครับ
admin เชื่อว่าบทความข้างต้นคงเป็นประโยชน์สำหรับผู้สนใจไม่มากก็น้อย หากท่านใดมีข้อสงสัยหรืออยากแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ก็สามารถแลกเปลี่ยนความรู้หรือสอบถามเราได้นะครับ หรือ
จะโทรสอบถามเราได้ที่ 086-620-0042 (คุณทวนทน: Admin)หรือ 061-859-0810 (คุณผกามาส) จะขอบพระคุณอย่างยิ่งครับ